การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ

 การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ 






 Xylem   เป็นท่อลำเลียงที่พืชใช้ในการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ



 การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืช  แบ่งได้เป็น 3 ช่วง  คือ
  1. การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ราก
  2. การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารเข้าสู่ไซเล็ม
  3. การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารภายในไซเล็ม


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ราก

     การลำเลียงน้ำ  

        สารละลายในดินจะมีความเข้มข้นที่ต่ำกว่าสารละลายในเซลล์ขนราก ทำให้น้ำสามารถเคลื่อนที่เข้าสู่เซลล์ขนรากโดย "ออสโมซิส"  เป็นการเคลื่อนที่ของน้ำจากสารละลายที่มีความเข้มข้นต่ำ (น้ำมาก)  ไปยังสารละลายที่มีความเข้มข้นสูง (น้ำน้อย)

     การลำเลียงธาตุอาหาร 

        แร่ธาตุในดินจะเข้าสู่รากพืชได้โดยการลำเลียงแบบใช้พลังงาน หรือ "Active transport" เป็นการลำเลียงสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นต่ำไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงกว่า โดยการใช้พลังงาน คือ ATP และต้องอาศัยโปรตีนเป็นตัวพา








การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารเข้าสู่ไซเล็ม

    เมื่อน้ำและแร่ธาตุได้ลำเลียงเข้าสู่รากของพืชแล้ว  จากนั้นพืชก็จะมีการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุจากชั้นคอร์เทกซ์เข้าสู่ไซเล็ม โดยมีทั้งหมด 3 แบบ 

     1. Simplast      

            เป็นการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารจากเซลล์หนึ่งไปสู่อีกเซลล์หนึ่ง โดยผ่านทางไซโทพลาซึมที่เชื่อมต่อกัน และทะลุไปอีกเซลล์หนึ่งโดยผ่านทาง "พลาสโมเดสมาตา" (Plasmodesmata)  เมื่อถึงเอนโดเดอร์มิสก็ยังคงลำเลียงผ่านพลาสโมเดสมาตาและเข้าสู่ไซเล็มได้

     2. Transmembrane 

            เป็นการลำเลียงจากเซลล์หนึ่งไปสู่อีกเซลล์หนึ่งโดยผ่านทางเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งจะสามารถลำเลียงผ่านเอนโดเดอร์มิสและเข้าสู่ไซเล็มได้

﹡การลำเลียงแบบที่ 1 และ 2 เป็นการลำเลียงที่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์

     3. Apoplast 

            เป็นการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารที่ไม่ผ่านเข้าสู่เซลล์  โดยจะลำเลียงผ่านช่องว่างระหว่างเซลล์หรือลำเลียงไปตามผนังเซลล์ 
            เมื่อถึงเอนโดเดอร์มิสจะไม่สามารถลำเลียงต่อไปได้  เนื่องจากเอนโดเดอร์มิสมี 
"แถบแคสพาเรียน"  (Casparian trip)   ซึ่งมีสารพวกซูเบอริน สามารถกันน้ำได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนการลำเลียงไปเป็นแบบซิมพลาสต์ หรือทรานส์เมมเบรน








การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารเข้าสู่ไซเล็ม

        พืชสามารถลำเลียงน้ำภายในไซเล็มจากรากขึ้นสู่ใบและยอด โดยอาศัยแรงที่ช่วยในการลำเลียงขึ้นสู่ด้านบน ดังนี้

      1. Capillary action 

                เกิดเนื่องจากแรงยึดเหนี่ยวกันระหว่างโมเลกุลของน้ำ หรือแรงโคฮีชัน  และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้ำกับผนังเซลล์ของไซเล็ม หรือแรงแอดฮีชัน


      2. Transpiration pull 

                  "แรงดึงจากการคายน้ำ" ซึ่งพืชใช้แรงนี้เป็นหลักในการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ เมื่อพืชคายน้ำออกทางปากใบ ทำให้เกิดแรงดึงในท่อไซเล็มซึ่งจะดึงน้ำขึ้นสู่ลำต้นและใบ  และโมเลกุลของน้ำมีแรงโคฮีชัน เป็นแรงยึดเหนี่ยวกันระหว่างโมเลกุลของน้ำ ทำให้การไหลของน้ำในท่อไซเลมจึงต่อเนื่องกัน พืชจึงสามารถลำเลียงน้ำและแร่ธาตุขึ้นที่สูงได้

      3. Root pressure 

            ในสภาวะที่พืชไม่มีการคายน้ำ และน้ำในดินมีมากพอและยังคงมีการเคลื่อนที่เข้าสู่รากพืชอยู่ จะทำให้น้ำในรากมีมากขึ้นจนเกิดแรงดันของมวลน้ำภายในราก หรือ "แรงดันราก"  ทำให้สามารถดันน้ำไหลขึ้นด้านบนไปตามไซเล็มได้
          นอกจากนี้ในสภาวะที่ไม่มีการคายน้ำ และมีแรงดันราก อาจทำให้เกิด กัตเตชัน (guttation) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีลักษณะเป็นหยดน้ำผ่านออกมาทางรูหยาดน้ำ หรือ ไฮดาโทด (hydathode)









 แหล่งที่มา 





ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม